CAFE : CRACK (แพนเค้กเด้งดึ๋ง สไตล์ซัปโปโร)



"Happiness is the Smell of Pancakes"


เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนเคยแชร์คลิปแพนเค้กเด้งดึ๋งของร้านนี้บนไทม์ไลน์ 

ทีแรกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เห็นเขาว่าเป็นแพนเค้กสไตล์ Sapporo ใจก็คิดว่าแค่แพนเค้กเนื้อนุ่ม ๆ ละมั้ง

แต่สุดท้ายก็รับคำชวนในเย็นวันศุกร์ วันที่เราควรปลดปล่อยตัวเองจากงานแล้วไปหาของอร่อยกินกัน





ร้าน Crack ตั้งอยู่ที่ตึกโครงการ RQ49 mall กลางซอยสุขุมวิท 49

เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS สะดวก แต่อาจต้องซิ่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากปากซอยเข้ามา


บอกเขาว่าเลยโรงพยาบาลสมิติเวชไปหน่อย รับรองว่าถึงแน่นอน!

หากเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว บริเวณอาคารก็มีที่จอดรถให้ แต่เวลาเย็นย่ำจราจรในซอยอาจติดขัดมาก






สไตล์การแต่งร้านล้อกับชื่อร้านได้น่ารักดี โลโก้ของร้านคือ ลูกเจี๊ยบที่กำลัง แคร็ก ออกจากไข่
ตึกที่ปิดทึบก็เปิดให้มีช่องกระจกเป็นประตูทางเข้าเหมือนรูของเปลือกไข่ที่แตก




การตกแต่งภายในร้านเน้นรอยหยักเหมือนรอยร้าวของเปลือกไข่




โคมไฟเพดานทรงกลมดูน่ารัก บรรยากาศดูการ์ตูนหน่อยๆ





ทางร้านใช้โทนสีน้ำตาลของไม้ ตัดกับอุปกรณ์ในร้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีขาว

เมื่อโดนแสงจากโคมไฟสีขาวสว่างในตอนกลางคืน ให้สีโทนส้มดูน่ารัก
และที่สำคัญ...กระตุ้นให้ความอยากอาหารหวานปะทุขึ้น





ปริมาณโต๊ะนั่งในร้านไม่เยอะมาก ดูสบายตา

มีหลายขนาดตั้งแต่โต๊ะยาวกลางร้านรองรับคนกลุ่มใหญ่ 8-10 คน
โต๊ะสำหรับกลุ่มเล็ก 4-5 คน 




และที่นั่งเดี่ยวก็มีจัดไว้ให้ที่ด้านหนึ่งของร้าน

แต่ดูจะหันหน้าเข้ากำแพง และให้ตั้งหน้าตั้งตากินเข้าไป มากกว่า




ตอนที่ไปคนไม่แน่นร้านถือเป็นโชคดี เลยได้ลองหลายเมนู

พวกเมนูแนะนำจะมีรูปโชว์ไว้ที่เหนือเคาน์เตอร์ แต่ในเมนูก็ยังมีให้เลือกอีกมากมายทั้งคาวและหวาน

มาเริ่มดูที่ของคาวกันก่อนเลย



จะเน้นเป็นอาหารแบบตะวันตก คือพวกเนื้อสัตว์ทานคู่กับวาฟเฟิล

ทั้งเป็ด แซลมอนรมควัน จนไปถึงปลามากูโร หรือทูน่า เป็นต้น

และเมนูเส้น ก็จะเป็นพวกสปาเก็ตตี้ดูทั่วไป
.
.
.
.

มาดูเมนูเครื่องดื่มกับของหวานกันบ้าง



เครื่องดื่มก็เหมือนๆร้านทั่วไป เมนูหลักๆ ก็มีครบ ร้อน เย็น ปั่น มีให้เลือกมากมาย




ของหวานที่นี่จะมีวาฟเฟิล ซึ่งเขาว่าเป็นสูตร “บรัสเซล” หรือแบบกรอบนอกนุ่มใน
มีหลากหลายแบบให้เลือก หรือแบบเน้นผลไม้สดก็มี




รวมถึงแพนเค้กเนื้อนุ่ม สมูทตี้ และไอศกรีม

.
.
.

แต่บางเมนูชื่อก็สร้างสรรค์มากจนสมองน้อยนิด ไม่อาจเข้าถึง



ทางร้านก็เหมือนรู้ใจ เห็นนั่งหน้างงๆ อยู่ เลยยื่นไอแพดมาให้ 
นี่แหละที่ต้องการ เมนูภาพ เหมาะกับคนอย่างพวกเราที่ชอบตัดสินจากหน้าตา

ที่นี่เขาก็มีอัลบั้มภาพทุกเมนูพร้อมราคา แยกเป็นหมวดหมู่ไว้ในแท็บเล็ตให้เลือกชมก่อนสั่ง

ซึ่งแต่ละจานก็มีการตกแต่งและการนำเสนอดึงดูดให้ลิ้มลองมาก
สงสัยไม่ให้แต่แรก เพราะกลัวจะทำให้ตัดสินใจยากขึ้น เพราะรูปภาพสวยๆ ทำให้น่ากินไปหมดเลย



ฤดูร้อนแบบนี้ ทางร้านก็ไม่ลืมที่จะเกาะกระแส มีเมนูประจำเทศกาล อย่าง “มะม่วง” ซึ่งน่ากินมาก

แต่เสียดายที่ไม่ได้สั่ง เพราะเรามีจานเป้าหมายไว้ในใจแล้ว 





ไปกัน 3 คน สั่งของคาว 2 จาน เครื่องดื่ม 2 แก้ว และของหวานอีก 2 อย่าง ก็น่าจะเยอะพอสมควร

ครัวที่นี่จะปิดเวลา 20.30 น. 

แต่เนื่องจากคนน้อย สั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ไปไม่นานก็ได้เมนูนั้นมาวางบนโต๊ะ  




มาเริ่มที่ของคาวจานแรกกันเลย Double Duck Waffle ราคา 290 บาท




 เฉพาะเนื้อเป็ดนี่แม่ให้ไปเลย 9/10 นุ่มและหอมมาก ชิ้นไม่บางเกินไป กำลังพอดีคำ

แต่ความฉ่ำของเนื้อที่น้อยไปนิด คงเพราะเราชอบแบบฉ่ำมัน

พอมาทานคู่กับวาฟเฟิลมันทำให้รู้สึกติด ๆ เหมือนเป็นของหวาน 

โดยรวมเลยขอหักคะแนน เหลือ 7.5/10 ละกัน    




จานที่สอง ถือว่าแพ้ทางมะกอกจริง ๆ ตัดสินใจเลือกตอนเห็นรูปในแท็บเล็ต  นี่แหละความมันที่ตามหา




Spaghetti Crispy Bacon สปาเก็ตตี้ผัดมันนิด ๆ ด้วยน้ำมันมะกอก กับเครื่องเทศ หอมซ่าปากกำลังดี
คลุกกับเบค่อนกรอบ 

เรากับเพื่อนเห็นตรงกันว่าอร่อยดี
แต่ให้น้อยไปนิดเมื่อเทียบกับราคา 240 บาท เป็นคนโลภน่ะต้องเข้าใจเรานะ ให้ 8.5/10 ละกัน



ซึ่งความดีงามของร้านนี้ที่ชอบมากคือ ไม่ว่าเราจะสั่งของคาวหรือของหวาน น้ำเปล่าฟรีจ้า

พร้อมเครื่องปรุง Syrup ที่ขอเพิ่มได้ตลอด พนักงานก็ยิ้มแย้มเต็มใจให้บริการดี 

ที่สำคัญไม่มี service charge นะจ๊า น่ารักที่สุด



มาดูเครื่องดื่มที่ลองสั่งบ้างดีกว่า



แก้วแรกคือแก้วที่เราสั่ง Valrhona White Chocolate Matcha ราคา 250 บาท

เนื่องจากเป็นสาวกช็อกโกแลต พอเห็นในรูปมีการเติมซอสชาเขียวลงไปในไวท์ช็อกโกแลตปั่น

คะแนนนำเสนอมาเต็ม เลยตัดสินใจเลือกทันที




ไวท์ช็อกโกแลตปั่นหวานละมุน อร่อยมาก

ชาเขียวที่เติมเข้าไปก็รสพอดี ไม่ได้ไปกลบกลิ่นกัน สีเขียวกับสีขาวก็ตัดกันสวยงาม

แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหวานอาจรู้สึกเลี่ยนถ้าทานแก้วนี้ร่วมกับของหวานจานอื่นอีก

ให้ 8/10 พอและกาน 
หักคะแนนนิดตอนใส่ซอสที่ต้องเล็งรูฝาแก้วดี ๆ มิฉะนั้นซอสอาจหกเลอะเทอะได้

บวกกับราคาที่สูงไปมากกว่าร้านอื่นในระดับคุณภาพใกล้เคียงกัน 




แก้วที่สองเพื่อนสั่ง Blueberry Coffee ราคา 150 บาท สีสันลวดลายให้เต็ม

ด้านรสชาติ รสขมของกาแฟ ตัดกับนม กับความฉ่ำหวานของบลูเบอร์รี่
พอคนเข้าด้วยกันแล้วมันให้รสฝาดปะแล่ม ๆ 

เพื่อนบอกว่ารัก 

แต่เราไม่เคยลองทานผลไม้กับกาแฟมาก่อน
ตามความเห็นเรานะ คิดว่าแปลกไปนิด ให้ 6.5/10 ละกัน 



  
  มาที่ของหวานบ้าง




เมนูวาฟเฟิลเราเลือก Double Belgian Chocolate Charcoal Waffle

แน่นอนว่าเพราะช็อกโกแลตและสีดำของชาร์โคล เลือกจากหน้าตาจริงๆ



วาฟเฟิลชิ้นใหญ่ ราดด้วยซอสช็อกโกแลต และไซรัป โปะไอศกรีมวานิลลาเย็น ๆ

ท้อปปิ้งเป็นอัลมอนด์ กับสตรอเบอร์รี่ โดยรวมคิดว่าโอเคเลย

ชอบเนื้อวาฟเฟิลมาก เนื้อกรอบนอกนุ่มในสมคำโฆษณา 

ซอสช็อกโกแลตก็เข้มข้น ทานตอนยังร้อนตัดกับไอศกรีมเย็น ๆ ถือว่าฟินมาก ให้ 8/10 เลย 


"ขัดใจนิดตรงสตรอเบอร์รี่ที่ตกแต่งรอบจาน อาจเพราะหั่นบางไป ซ่อมสแตนเลสจึงจิ้มลำบาก
รสชาติเปรี้ยวก็เสียไปทั้งที่ควรจะมาตัดกับหวาน

กับราคา 310 บาท ที่อาจจะแพงไปนิดสำหรับวาฟเฟิล 1 ชิ้น"




และก็มาถึง Signature ความนุ่มเด้งที่เพื่อนเรียกร้องจะมาสัมผัสให้ได้

ขอบอกเลยว่า 
Madagascan Creamy Sapporo Pancake 
นุ่มจริง เด้งจริง ยังกับทานคอลลาเจน ครีมก็หอมหวานจริง

มีครัมเบิ้ลกับถั่วลิสงคั่วให้เคี้ยวเล่นกรุบ ๆ พร้อมแพนเค้ก

และที่ชอบอีกอย่างคือไอศกรีมคาราเมลที่รสเข้มข้น จนยกนิ้วให้เลย 




สำหรับราคา 230 บาท ทานร่วมกับเพื่อน 3 คน ถือว่าคุ้มค่าและไม่เลี่ยนจนเกินไป

จานนี้ 10 10 10 ไปเลยจ๊ะ




- ชอบไอเดียนำเสนอที่น่ารัก การตกแต่งร้าน และการคิดสร้างสรรค์เมนูแปลกใหม่ขึ้นมา 

รวมถึงการแต่งจานที่แสดงความเอาใจใส่ ที่สำคัญ 

signature pancake ของร้านน่าประทับใจมาก  -  


ร้านนี้อาจจะเหมาะสำหรับการมานั่งชิลอ่านหนังสือ ทำงาน นั่งรอฆ่าเวลา

หรือมากับกลุ่มเพื่อนที่ตามล่าหาร้านขนมอร่อย ๆ อยู่

ที่นี่ได้ครบทั้งคาวหวาน แต่อาจราคาสูงไปนิดหากคิดมาลองคนเดียว

เป็นร้านที่ควรมากับเพื่อนอย่างยิ่ง เพราะตัวหาร จะเพิ่มความฟินได้มากขึ้น 555+




ทางร้านยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลอง พร้อมราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม

ขอบอกว่า สำหรับคนที่ไปแบบไม่รู้จะทานอะไร ถ้าได้จับแท็บเล็ตขึ้นมาเลื่อนดูรูปเมนูแล้วละก็

อาจจะตาลายเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว 


ชงให้ขนาดนี้ ถ้าคลิก ก็ไป Crack กันเลย ป่ะล่ะะะะ! 


-------------------------------------------------------------------------------------


พิกัด : โครงการ RQ49 mall ซอยสุขุมวิท 49

เปิดบริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 10.00 – 21.00 และ เสาร์-อาทิตย์ 10.00 - 22.00

ติดตาม เพจร้าน https://www.facebook.com/crackbkk/




ทิ้งไปด้วย ความเด้งดึ๋ง ของแพนเค้ก 

ยั่วให้อยากและจากไป



ความคิดเห็น