รีวิว (ไม่สปอยล์) – เพื่อนที่ระลึก (7.5/10 ตุ้งแช่เดาทางได้ พล็อตเส้นตรง ดูสนุก มีดีแค่นักแสดง)
พอดูตัวอย่าง แล้วชอบมาก
คาดหวังกับเรื่องนี้มาก
คิดว่าต้องเป็นหนังผี อีกเรื่องของ GDH ที่ต้องออกมาดี
สุดท้ายก็น่าผิดหวัง
สงสัยว่าหวังมากไป
พล็อตเรื่องเดาทางได้ง่าย
เป็นเส้นตรงไม่มีอะไร
เดาทางผีโผล่ออก
อาจมีข้อดีที่ เอาเทคโนโลยีมาช่วยให้ตกใจ
คะแนนความตุ้งแช่ ยังดีงาม
แต่ทีี่มาที่ไปของตัวละครตามบทนั้น ค่อนข้างแย่
สุดท้ายหนังก็หาทางลงของเรื่องที่ไม่ค่อยถูกใจ
แต่โดยรวม ยังออกมาเป็นหนังผีที่ระดับบน
สมแล้วที่เลือกไปดูอีกเรื่องหนึ่ง ก่อน
แล้วอยากไปดู ป่ะล่ะะะะะะ?
ไปดูกันเลยดีกว่า
ไม่อยากเห็นภาพใด แม้ตาท้องฟ้า
อยากจะพักตาลงชั่วกาล
จะไปซุกตัวนอนซ่อนกาย ในเงาจันทร์
จะหลับฝันไม่ขอตื่นขึ้นมา
นั่นคือเพลง เดียวดายในสายลม ของ พี่จุ๋ม นรีกระจ่าง เพลงที่ใช้ประกอบเรื่องนี้ อันแสดงถึง ความอยากตาย ที่ตัวละครทั้งสองคนต้องการ ระหว่าง เพื่อนรัก อย่าง อิ๊บ และ บุ๋ม (บี น้ำทิพย์) แต่แล้วบุ๋ม ก็ทรยศ เพื่อน ปล่อยให้เพื่อนฆ่าตัวตายไปคนเดียว อันเป็นจุดเริ่มต้น ของการทวงสัญญา ของอิ๊บ ที่จะมาเอาตัวบุ๋มให้ตายไปด้วยกัน จนเกิดเป็นเรื่องราวอันน่าสยองขวัญ ตลอดกว่า 2 ชม. ที่หนังได้ถ่ายทอดเรื่องราวให้เรารับชม
"เพื่อนที่ระลึก" ผลงานชิ้นใหม่จาก โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ผู้กำกับ ‘ลัดดาแลนด์’ ที่หลายคนชื่นชม และนี่คืองานชิ้นแรกที่ออกในนามจีดีเอช หนังมีวัตถุดิบที่ดูแข็งแรงเพราะหน้าหนังมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เป็นจุดน่าสนใจ ทั้งพลอตเกี่ยวกับผีอาฆาตทวงสัญญาที่ว่าจะฆ่าตัวตายไปด้วยกัน การอาศัยเรื่องจริงของวิกฤติช่วงต้มยำกุ้ง เป็นตัวช่วยส่ง แถมยังเป็นการนำเมนเทอร์ บี น้ำทิพย์ ตัวแม่วงการ มาเจอกับนักแสดงใหม่ อย่าง ลิลลี่ จากเดอะเฟซ
น่าจะตั้งใจเอาดีกับแนวผีอย่างเดียวแล้วล่ะสำหรับผู้กำกับคนนี้ เพราะรู้สึกจะไปได้ดี ทำหนังผีออกมาทุกๆ 3 ปี ตั้งแต่ โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (2551) ลัดดาแลนด์ (2554) และ ฝากไว้ในกายเธอ (2557) ซึ่งสำหรับเรื่องสุดท้าย ดูจะเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด และแล้วก็มาถึง “เพื่อน..ที่ระลึก” ผลงานกำกับเรื่องที่ 4 ซึ่งเราคาดหวังที่จะให้เป็นเรื่องกู้หน้าของเขา ที่นำตำนานผีตึกร้างของไทยอย่างตึก “สาทรยูนิคทาวเวอร์” มาเป็นธีม
เรื่องย่อ
ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างพังทลายหลังรัฐบาลประกาศลดค่าเงินบาท นักธุรกิจทั้งหลายกลายเป็นพวกหนี้สินล้นพันตัว ส่งผลให้สองสาวเพื่อนสนิทอย่าง อิ๊บและบุ๋ม เลือกจะนัดพบกันที่ตึกคอนโดหรูร้างอันเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความพังทลายของครอบครัวของบุ๋ม จากเศรษฐีหลายร้อยล้าน ต้องมาอยู่บ้านอพาร์ตเมนต์หลังโทรมๆ
เธอทั้งสองตั้งใจฆ่าตัวตายหนีปัญหาบนตึกนั้น
แต่แล้วกลับกลายเป็นว่ามีเพียงอิ๊บที่ยิงตัวตายจากไป ขณะที่บุ๋มกลัวจนวิ่งหนีออกมา 20 ปีผ่านไป บุ๋ม (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) กลายเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องกลับไปบูรณะตึกร้างอีกครั้ง ก่อนที่เบล (ลิลลี่ อภิชญา ทองคำ) ลูกสาวจะได้พบกับ ‘เพจเจอร์’ เครื่องเก่าของอิ๊บ
บุ๋มมีเพียงเบลเป็นลูกคนเดียวและเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ เมื่อบุ๋มพบว่าอาการนอนละเมอของเบลกลับมากำเริบอีกครั้งก็เริ่มเป็นกังวลและยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า อาการละเมอมีบางอย่างที่บ่งบอกถึงการมาของอิ๊บ เพื่อนที่เคยยิงตัวตายจากไปต่อหน้าต่อตา
20 ปีที่เธอผิดสัญญามาโดยตลอด
บุ๋มรู้แล้วว่าเพื่อนของเธอกำลังต้องการเอาชีวิตของลูกสาวเธอไป เพราะ “คำสัญญา” ที่เธอไม่รักษาไว้ในวันนั้น เมื่อผีกลับมา “ทวงสัญญา” บุ๋มจะรับมือกับเรื่องหลอนนี้อย่างไร
“สัญญานะ ว่าแกจะไม่ปล่อยให้ฉันตายคนเดียว”
คำพูดประโยคนั้น กลายเป็นพันธะกับคนหนึ่งคนได้ยาวนานถึง 20 ปีทีเดียว หนังหยิบเอาสิ่งของเครื่องใช้ในยุคนั้นมาพาให้เราหวนระลึกถึง ทั้งเพจเจอร์ วินโดวส์ เสียงต่อโมเด็ม และการถ่ายรูปสติกเกอร์ เรียกว่าช่วงแรกหนังพาเราโหยหาอดีตได้อย่างอยู่หมัดทีเดียว
รีวิวหนัง
มีการนำตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์ มาทำเป็นตัวเชื่อม 2 ช่วงเวลาที่ห่างกัน 20 ปีได้ดี เพราะเป็นจุดที่ทำให้เกิดเรื่อง และจบเรื่อง แต่กลับนำมาแค่โลเคชั่น สำหรับเรามันไม่มีเรื่องราวของ วิกฤติ 40 มาใช้ร่วมกับตึกนั้นเลย จนเหมือนว่า ให้เรื่องไปเกิดที่ตึกร้างไหนในกรุงเทพ ก็คงไม่ต่างกัน
ให้คะแนน ในส่วนของภาพฟุตเตจของมหันตภัยที่บางคนได้เผชิญจากวิกฤตเศรษฐกิจในวันนั้น ถือว่าทีมงานทำการบ้านตรงนี้มาได้ละเอียดดี แต่นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้แค่เปิดเรื่องเท่านั้น จนดูเสียวัตถุดิบอันมีค่าไป
สำหรับหนังผีไทย เราคิดว่าหนังก็ทำได้ดีอยู่ มีความน่ากลัวระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดตามกลับมาหลอนที่บ้าน หนังตอบโจทย์ในแง่ความหลอน ความน่ากลัว และความสยองขวัญ ได้ดีมาก อย่างที่หนังผีฮอลลีวู้ดหลายเรื่องทำให้ไม่ได้
ผีเหี้ยมาก มีทั้งตุ้งแช่ มีทั้งหลอกคนดูให้หลงทางอยู่หลายครั้ง ชอบการที่เอาเทคโนโลยีสมัยนี้มาเล่นกับความหลอนของคนได้เป็นอย่างดี แต่ที่เกลียดคือผีมันบ้า จัดหนัก อาฆาตแค้นเบอร์แรง แบบไร้เหตุผล ขยันมา 3 เวลา ชนิดไม่ต้องให้พักให้ผ่อน ดูแล้วนี่ก็รู้สึกเหนื่อยแทน อยากให้หนังจบ ๆ ไว ๆ เพราะกลัวหัวใจจะวายตายอีอิ๊บไปเสียก่อนบีหรือลิลลี่
ตัวละครบุ๋มเองก็ค่อนข้างสตรอง ดูไม่กลัวผีเสียเลย มีแต่จะวิ่งเข้าวัด หาพระ เรียกหมอผี เหมือนเรื่องอื่น แต่นี่จะวิ่งเข้าไปสู้ผีตลอดเวลา เอะอะอะไรก็กลับไปที่ตึก แล้วยังไง ก็ต้องวิ่งขึ้นชั้นที่เกิดเหตุตลอดเวลา ซึ่งอยู่บนชั้นที่ 47 บร๊ะเจ้า!!! (ปกติเดินขึ้นบันไดแค่ชั้น 3 ก็จะเป็นลมละ นี่นางวิ่งขึ้นอย่างกับแข่งเวอร์ติคัลมาราธอน)
สรุปคือบุ๋มเป็นไฟต์เตอร์ของเดอะเฟซ ตัวจริงจ้ะ ไม่กลัวผี แต่กลัวเสียลูกมากกว่า พาร์ทดราม่าที่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของแม่ลูกจึงแข็งกว่าพาร์ทผีไปแล้ว
ด้านการแสดงของเมนเทอร์บีก็โดดเด่นทะลุจอ ดูแล้วเราเชื่อ เล่นถึง รู้สึกเหมือนนางจะเป็นบ้าจริงๆ ดุแล้วประสาทจะกินตาม แต่ลิลลี่ซึ่งเล่นเป็นเบล ลูกสาว ยังรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรน่าจำ
หนังยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เดินเรื่องได้เร็ว อันนี้ถือว่าดี และที่ชอบอีกอย่างคือ งานภาพและการเล่าเรื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแตกต่างอย่างหนึ่งที่ “เพื่อน..ที่ระลึก” มี และเลือกใช้ให้แตกต่างจากขนบหนังผีทั่วไป คือการเล่นกับจินตนาการคนดู เรื่องนี้เป็นหนังผีที่แทบไม่เห็นผี เกือบทั้งเรื่องเราเห็นร่างของผีอิ๊บน้อยมากๆ แต่ใช้ประโยชน์จากเสียง แสง ฉาก สร้างบรรยากาศหลอนได้อย่างดี มุมมองการถ่ายทำ การถ่ายฉากตึกสาทรร้างในมุมต่างๆ ก็ใช้พื้นที่ของตึกร้างอย่างคุ้มค่า การจัดแสงในบางฉากที่ทำได้สวยงาม
แต่ที่ดูหนังแล้วรู้สึกขัดใจ คือการละเมอของน้องเบลนี่ดูไม่มีหลักมีเกณฑ์ที่สุดละ จะเกิดอาการตอนไหนก็ได้ ละเมอด้วยเหตุใดก็ได้ สุดท้าย ความที่แน่เอานอนอะไรไม่ได้ ทำให้หนังได้แต่ประคองตัวเองให้ไปถึงจุดสุดท้ายให้ได้เพียงเท่านั้น
เคมีของบี และ ลิลลี่ ก็ดูยังขาดๆเกินๆ ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากัน ซึ่งมาจากจุดอ่อนสำคัญคือ “บท” ที่เรามองว่าอ่อน ไม่ค่อยมีอะไร แล้วหนังค่อนข้างยาว ช่วงแรก ๆ ก็ดูดีมีอะไรอยู่หรอกนะ แต่มันจะมีบางช่วงที่ดูตัดต่อแปลกๆ ยิ่งช่วงท้ายๆ ก็ยิ่งแผ่วลงๆ เหมือนหนังยังไม่แน่ใจว่าจะลงตรงไหน มันเลยพาเราไปได้ไม่สุดสักทาง ไม่ว่าจะสยองขวัญหรือดราม่า บทสรุปในท้ายเรื่องเราก็เลยไม่อิน
หนังไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์อย่างที่เราคาดหวัง ดูจากตัวอย่างตอนแรก เรานี่ก็มโนจุดจบไปหลายเวย์มาก สุดท้ายจบง่ายไป แถมทิ้งความคาใจมากมายเอาไว้ เช่น ในเรื่องนี้บุ๋มมีลูกตอนอายุ 20 ปีหรอ? สามีเป็นใคร? แล้วบุ๋มกลับมารวยมากอีกครั้งได้อย่างไร? พ่อแม่ของบุ๋มจบยังไง?
สรุปแล้ว
หน้าหนังขายตึกร้างสาธรและวิกฤติต้มยำกุ้งไว้ใหญ่โต น่าสนใจ แต่หนังกลับใช้มันเป็นเพียงแบคกราวน์สร้างความหลอน ช่างไม่คุ้มเอาเสียเลย อย่างวิกฤติต้มยำกุ้งเนี่ย มีมาเพื่อให้บุ๋มกับอิ๊บเป็นคุณหนูตกอับจนครอบครัวแตกแยก เป็นแรงจูงใจให้ไปฆ่าตัวตายนะ ซึ่งเป็นแบคกราวนด์ที่เบาบางมาก จนยังไม่ทันรู้สึกอินเลยว่า พวกแกจะไปฆ่าตัวตายกันทำไมมมม
ด้านโปรดักชั่นดี การแสดงของบีดี่เยี่ยม ผีก็น่ากลัวระดับหนึ่ง การเล่าเรื่องทำให้น่ากลัวกว่าผี จังหวะตุ้งแช่ซ้ำๆ ดีที่ยังเอาเทคโนโลยีมาช่วย แต่บทค่อนข้างอ่อนอย่างน่าเสียดาย (ยอมรับว่าแอบคาดหวังกับบทของ GDH ไว้ค่อนข้างเยอะ) แต่ถ้าใครอยากไปดูเพื่อรับความสนุก ไม่เอาอะไรกับบทมาก ดูหนังผี ต้องการอารมณ์ตุ้งแช่ ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วสนุก แต่หนังมีความรุนแรงที่อาจไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ก็ถือเป็นหนังผีที่เต็มไปด้วยความหลอนโดยไม่ต้องมีภาพผีแหวะ ๆ น่ากลัวให้เห็น แม้ผลลัพธ์จะยังไม่ถึงระดับต้น ๆ ของ GDH แต่ก็จัดได้ว่าเป็นงานที่มีคะแนนบนๆ ที่ควรค่าแก่เวลาและเสียค่าตั๋ว แต่แอบเกลียดการขายของในเรื่องของ OPPO ดูไม่เรียลเท่าไหร่
ดังนั้นให้คะแนน ความชอบส่วนตัว เอาไป >>>>> 7.5/10 (ถือว่าโอเคสำหรับหนังผีไทย)
"เป็นหนังผี ที่คาดหวัง แต่ไม่ได้อย่างที่คาดหวังไว้ แค่นั้นเอง"
คิดว่าน่า "ดู ป่ะล่ะ "
พิสูจน์ด้วยตัวเอง ได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ ดูตัวอย่างหนังได้ด้านล่าง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น