อยากดูป่ะล่ะ : หนังใหม่ประจำสัปดาห์ The Power Rangers

ไปดูป่ะล่ะ by Hammer Movie Review (ทุบให้ละเอียดก่อนดู)

อยากเขียน รีวิวหนัง ถ้างั้น ขอประเดิมด้วยเรื่องแรก เลยละกัน ไม่รู้จะเวิคหรือเปล่า 555 แต่นี่จริงจังนะ จะพยายามเขียนให้ดีที่สุด สมเป็นงานแรก อาทิตย์นี้หนังใหม่เข้าเยอะมาก จนไม่รู้จะดูเรื่องไหนดี แต่ด้วยความที่เป็นขบวนการ 5 สี เคยชอบขนาดซื้อเป็นของเล่นชิ้นแรกๆ ในวัยเด็ก เลยขอดูเพื่อเติมเต็มสักหน่อย (ยอมรับว่าเขียนยาวมาก ตั้งใจให้ออกมาดี แต่ก็แอบกลัวไม่มีคนจะอ่าน 55 )

รีวิว : Power Rangers (อาจหลุดสปอยล์บ้างเพราะยังไม่เก่ง)
แนว : Action / Adventure / Super heroes
ผู้กำกับ : Dean Israelite        ผู้ผลิต : Lionsgate

ขอเล่าที่มาก่อน พาวเวอร์ เรนเจอร์ส เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์หนังแปลงร่าง 5 สี ที่ค่อนข้างนิยมมายาวนานมากกว่า 20 ปี หลายคนพอโตแล้วก็เลิกดู แต่อยากบอกว่า มันก็ยังดังอยู่เรื่อยๆ และผลิตออกมาตลอดๆ โดยซีรีย์ชุดนี้เดิมเป็นของญี่ปุ่นมาก่อนที่จะถูก บริษัท Saban Entertainment ในอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์ไป เพื่อไปทำให้เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตก และทำเป็นหนังใหญ่ไปแล้วในปี 1995 คะแนนตอนนั้นก็ไม่แย่มาก ต่อมาลิขสิทธิ์ตกไปอยู่กับดิสนีย์ช่วงนึง ก่อนจะกลับมาสู่บริษัท Saban อีกครั้งเมื่อราว 5 ปีที่แล้ว

ด้วยกระแสการนำของเก่ามาเล่าใหม่นั้น สำหรับวงการหนังตอนนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก อีกทั้งหนังประเภทนี้จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ ไม่พ้นขบวนการ 5 สีชุดนี้ ซึ่งกระแสเมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่ปล่อย Teaser แรกมา ค่อนข้างสร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อย ทั้งกับติ่งเดิม และติ่งใหม่ แฟนๆบางคน คาดหวังขนาดให้ไปเทียบกับฮีโร่ของค่าย Marvel หรือ DC

การสร้างหนังใหญ่พร้อมกับความคาดหวัง จึงเป็นเรื่องยาก สมัยก่อนเราเคยดูหนังประเภทนี้สนุก แต่พอโตขึ้น ยุคสมัยเปลี่ยน ความสนุกในวันนั้นก็ลดน้อยลง การจะทำให้มันออกมาแบบเดิม จึงไม่ใช่โจทย์ที่ใช่อีกต่อไป หนังได้ผู้กำกับ ดีน อิสราเอลิท ซึ่งเคยกำกับหนัง รีวิวแย่ๆ อย่าง Project Almanac มาก่อน (แม้แต่ชื่อยังไม่คุ้นใช่มั้ย) แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ยังได้ทีมเขียนบทของ X-men First class และ Thor รวมถึงทีมงานวิชวลเอฟเฟคบางส่วนจาก Transformer และ Maze runner

เอาเข้าจริงก่อนดูก็มีความกังวล ว่าหนังอาจไปไม่ถึง ที่จะทำให้คนสนุก ในเวลาจำกัด 2 ชม. และให้คนหวนรำลึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กไปพร้อมๆกัน อีกทั้งผู้สร้าง ก็บอกไว้แล้วว่าจะทำเป็นมหากาพย์ ยกเครื่องใหม่ ทั้งหมด 7 ภาค ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ภาคแรกต้องเดินเรื่องให้ดี ชัดเจน ก็เลยเตรียมใจไว้ก่อนดูประมาณหนึ่งแล้วว่าหนังอาจเนือย นี่ขนาดเป็นแฟน ยังทำใจเผื่อไว้ก่อนเลย 555

เรื่องย่อ

สำหรับฉบับนี้ เป็นการพูดถึง เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นมีปัญหาทั้ง 5 ได้แก่ เจสัน, บิลลี่, แซค, คิมเบอลี่ และ ทรินิ ในโรงเรียนพิเศษแห่งเมือง Angel Grove ที่นอกจากเจอกับปัญหาในครอบครัวและการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนแล้ว พวกเขาก็ได้เข้าไปพัวพันกับวัตถุแปลกปลอมบางอย่างจากนอกโลกในเขตหวงห้าม จนเป็นที่มาของเรื่องราวเหลือเชื่อ

เมื่ออยู่ๆ พวกเขากลายเป็นผู้มีพลังพิเศษสุดแข็งแกร่ง ที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของศัตรูร้ายที่ตามเอาชีวิต ในเวลาต่อมาพวกเขากลายเป็นผู้ถูกเลือกจากโชคชะตา ให้เป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่จะช่วยโลกนี้ไว้ได้  จุดเริ่มต้นของการต่อสู้ของเหล่า Power Rangers จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมๆกับการก้าวข้ามปัญหาชีวิตวัยรุ่น เพื่อที่จะร่วมมือกันในฐานะขบวนการ 5 สี รุ่นใหม่ให้จงได้ ก่อนที่ทุกสิ่งจะสายเกินไป

เกริ่นมาเยอะ มาเริ่มรีวิว จริงๆ จังๆ สำหรับฉบับรีบูทนี้ สักที


- หนังเล่าเรื่องแบบไม่ค่อยมีชั้นเชิงเท่าไหร่ ปูเรื่องนาน แต่รวบรัดในมิติตัวละคร

หนังปูเรื่องค่อนข้างนาน ถามว่าน่าเบื่อมั้ยก็ไม่นะ เพราะมีการโปรยมุกสร้างสีสันอยู่ตลอดทาง ซึ่งการสร้างที่มาคาแรกเตอร์ให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องดี โดยตั้งใจจะทำให้ 5 คน 5 มิติที่แตกต่าง เข้าใจได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คนดูจดจำ ถือเป็นเรื่องดี หนังใช้เวลากับตรงนี้นานมาก แต่เล่าอย่างไม่มีชั้นเชิง เพราะไม่อาจจดจำตัวละครไหนแบบเด่นๆได้เลย หนังพยายามสร้างปมด้อยให้เด็กแต่ละคน แต่ก็แค่นั้น ไม่ได้ไปจุดประเด็นต่ออะไร แค่ต้องการให้ดูเป็นเด็กมีปัญหา 5 คนที่มาเจอกันโดยไม่ตั้งใจ และสุดท้ายก็พยายามยัดเยียดความสนิทของตัวละคร 5 คน ให้สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ราวกับรู้จักกันมานาน
หนังอาจพยายามเร่งรีบ เพราะอาจกลัวคนดูเบื่อ แต่มิติตัวละครยังไม่ลึกพอ จะให้เรารู้สึกถึงความสนิทที่พวกเขามีให้กันมากนัก ดูไม่ออกว่าเรื่องใดเป็นจุดเชื่อมโยงของมิตรภาพ (ตรงนี้คือสิ่งที่หนังไม่สามารถทำได้อย่างซีรีย์) แล้วมันสำคัญอย่างไร ก็เพราะทุกอย่างของความเป็น 5 สีในหนัง มุ่งไปที่เรื่องของความสามัคคี และอันหนึ่งอันเดียวกัน นี่แหละที่หนังทำได้ไม่ถึง และสอบตกในเรื่องนี้

- ระดับพลังที่ดูยิ่งใหญ่ระดับจักรวาล แต่ขัดตาจัง

เนื้อเรื่องพูดถึงการได้มาซึ่งพลังซึ่งสามารถควบคุมจักรวาลได้ โดยเล่าว่าเดิมมีนักรบ 6 สี ปกป้องขุมพลังนี้ แต่ 1 คนทรยศ ก็คือตัวร้ายในเรื่อง ต้องการจะเอาพลังไปใช้เพื่อครองจักรวาล แต่นักรบสีแดง คนเก่า ช่วยปกป้องไว้ได้ ก่อนสีแดงจะตายก็ได้สร้างอุกกาบาตมาถล่มโลก หวังให้ตายพร้อมตัวร้าย
เอ๊ะเดี๋ยวก่อน เล่ามาถึงตรงนี้ ตัวร้ายต้องพลังไม่ธรรมดา มหาศาลแน่ๆ ขนาดต้องเอาอุกกาบาตรมาชน แต่พอถึงฉากต้องสู้กับเหล่าเรนเจอร์ส น้อยทั้ง 5 คน กลับกลายเป็นการต่อสู้ระดับชุมชน แทนที่จะเป็นระดับจักรวาล สเกลพลังดูเล็กจนขัดตา เมื่อเทียบกับยุคก่อนที่ 5 สี รวมร่างตัวใหญ่กว่าภูเขา อันนี้ตัวเท่า Kong เห็นจะได้ แถมร่างรวมหนังไม่แสดงให้เห็นรูปแบบการรวมร่าง ซึ่งจุดนี้ คือจุดที่โคตรรพีคตอนเป็นซีรีย์ เพราะจำได้ว่าสมัยนั้นดู ฉากรวมร่างนี่คือเท่โคตร แต่ในหนังไม่อลังการเลย และไม่เป็นที่จดจำ
การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างน่ารัก ไม่รุนแรง ไม่ยิ่งใหญ่ ตอนแรกหวังไว้ว่าจะเจอความวิบัติ ระดับก็อตซิล่า หรือ อัลตรอนถล่มใน Avengers แต่เอาเข้าจริงแค่มาถล่มห้องแถว 555 สงสัยตัวร้ายหลับมานานเพิ่งฟื้น เลยพลังน้อย

- เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่ซับซ้อน

ซึ่งทุกคนก็น่าจะพอเดาได้อยู่แล้ว ตามหาวัยรุ่นที่คู่ควรเป็น 5 สี มาสู้วายร้าย ทุกอย่างเต็มไปด้วยความบังเอิญ เหมือนชะตาฟ้าสรรค์สร้าง 5 คนต้องผิดใจกันก่อน ก่อนที่จะกลับมารวมตัว ด้วยเหตุการณ์กระตุ้นสัก 1 เหตุการณ์ หนังพยายามจะบิวท์ เพื่อเรียกพลังจากมิตรภาพ แต่ความรู้สึกกลับไม่เลย บทพูดบิวท์มันดูประหลาด และจงใจเกินไป และพอรวมพลังแล้ว พลังที่แท้จริงปรากฎ ทั้ง 5 คนก็เก่งขึ้นทันตา ไม่รู้ไปฝึกศิลปะการต่อสู้มากันจากไหน

ช่วงท้าย

ข้อดี

- หนังสามารเอาดี ทางตลกได้ หลายฉากนี่ฮามาก โดยเฉพาะที่ซ่อนขุมพลังจักรวาลนี่ ฮามาก เป็นการทายอินสินค้าที่โจ่งแจ้งมาก บางมุกขยี้แล้วขยี้อีก
- ด้านตัวละคร ถือว่าแคสมาดี ระดับนึง สีแดง นักกีฬาหนุ่มหุ่นแซบ สีดำ หล่อตี๋อินเตอร์ สีน้ำเงิน ฉลาดและฮา สีชมพูสาวมั่น และสีเหลืองสาวดื้นรั้น มีความ LGBT
- ฉากต่อสู้กับลิ่วล้อ ในเรื่อง ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ

ข้อเสีย

- คิวบู๊ที่ดูไม่มันส์ ฉบับซีรีย์ทำดีกว่ามาก รวมถึงสเกลพลังที่เล็กไป ฉากรวมร่างที่ไร้เสน่ห์
- มิติตัวละคร และมิตรภาพที่ดู ยัดเยียด
- เพลงธีม Go Go Power rangers ที่น่าจะมีในหนังแบบบีทหนักๆ แต่กลับไม่มี ผิดหวังมาก เบาบางเหลือเกิน

ข้อคิดจากหนัง : ต่างที่มา ต่างความคิด แต่เข้ากันได้ ถ้าคุณเปิดใจ

สรุป แม้หนังจะไม่ได้รู้สึกถึงความประทับใจ และการเติมเต็มในวัยเด็กได้อย่างเต็มที่ แต่อยากชื่นชมในความกล้าของผู้สร้าง ที่พยายามดันเรื่องนี้ จนมาขึ้น Box office ได้ อย่างน้อยคุณก็กล้าที่จะนำมันกลับมาเพื่อเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของหลายๆคน เป็นหนังที่ดีมากๆ ในเรื่องมิตรภาพ และมุกตลก แต่ถ้าอย่างดูความอลังของคิวบู๊ และฉากแอคชั่น อาจขัดใจนิดหน่อย ถ้าไปแบบไม่คาดหวังก็น่าจะสร้างความสนุกและเพลิดเพลินระดับหนึ่งได้เลย หนังค่อนข้างสนุกดี ดูได้ไม่เสียดายเงิน หวังว่าภาค 2 จะดีขึ้น กว่าจะครบ 7 ภาค หลานคงโต  

สำหรับคะแนนให้ 6.5/10 เรื่องจริงเป็นคนไม่อยากให้คะแนน เพราะแต่ละคนมีสไตล์การดูหนังไม่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวไม่ให้ ก็ดูจะเป็นการไม่รีวิว และไม่เห็นภาพ 555

ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่าน นี่เป็นการเขียนรีวิวเรื่องแรก อาจจะดูเยอะไป หรือ ขาดๆ เกินๆ ก็วิพากษ์ หรือ แนะนำได้ ว่าอยากให้มีส่วนไหนเพิ่มเติม เรื่องต่อไป คือ Life สายพันธุ์มฤตยู #powerrangers #movie #review #majorcineplex #paragoncineplex #hamufilmreview

อ่านมาขนาดนี้ แล้ว ดูป่ะล่ะ!

ติดตามเรื่องราวใหม่ๆ ทุกสัปดาห์ ได้ที่ Blogspot : http://palahdiary.blogspot.com และ Facebook : www.facebook.com/palahdiary



ความคิดเห็น