RESTAURANT : THE GARDEN OF DINSOR PALACE (กินหรูมื้อนี้...ไม่แพงอย่างที่คิด)


"The Garden Is A Love Song, A Duet Between A Human Being And Mother Nature. - Jeff Cox" 





หลายวันก่อน ได้มีโอกาส ไปทานอาหาร ที่ร้าน The Garden Of Dinsor Palace

ถ้าถามว่ารู้จักร้านนี้ได้ยังไง เผอิญไปเห็น Live ของคุณแอฟ ทักษอร พาลูกไปเล่นกับหงส์ที่ร้านนี้ พอเห็นว่ามีหงส์ แค่นั้นแหละ 555 ลองไปดูดีกว่า 

ชวนเพื่อนๆไปลองป่ะล่ะะะ! - แต่ละคนกลัวว่าจะแพง แต่มีอยู่หนึ่งคน ไปไหนไปกัน งั้นจัดไป

งั้นไปดูรีวิว กันหน่อย ดูสิ ร้านนี้จะเหมาะกับมนุษย์เงินเดือน ที่อยากกินหรูอยู่แพงอย่างเรามั้ย 555




ร้านนี้ตั้งอยู่ระหว่าง สุขุมวิท 59 กับ 61 อยู่ในซอยตัน ซึ่งเมื่อเข้ามาจนสุดซอย ก็เจอกับร้าน The Garden of Dinsor Palace ตั้งอยู่




ร้านนี้ ตั้งอยู่ใน "วังดินสอ" วังเก่าแก่ที่มีอายุมากว่า 80 ปี โดยวังแห่งนี้ตกทอดสืบเชื้อสายมาทางหม่อมเจ้า ดาราทอง หรือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช โดยผู้สืบเชื้อสายรุ่นปัจจุบันได้นำวังมาปรับปรุงใหม่ รีโนเวทให้เข้ากับยุคสมัย และทำเป็นร้านอาหารแต่ยังคงเน้นสไตล์วินเทจ ผสานกับวังเก่าได้แบบลงตัว




เลาะรั้วประตูวัง 

หลังจากฝ่าดงรถ ต่อรถไฟฟ้า มาจนเหนื่อย ก้าวแรกเมื่อเดินผ่านประตูรั้วเข้าไป เราได้พบกับสวนสวยๆ อันแสนร่มรื่น ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีร้านอย่างนี้อยู่ในย่านทองหล่อ-เอกมัย

พอเดินเข้ามาด้านในเหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกนึง ที่นี่รายล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เมื่อมาอยู่รอบๆ ร้านสไตล์วังเก่า มันช่างงดงามไม่น้อย จนอยากจะเดินเข้าไปสำรวจ




พอเดินมาถึงประตูร้าน ชอบลายเส้นของรูปภาพประกอบในร้าน โดยเฉพาะประตูร้าน ที่เป็นรูปหมูแบกถาดอาหารไว้บนหลัง น่ารักดี

ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Indoor และ Outdoor

บริเวณร้านด้านหน้าสุด เป็น ร้านกาแฟ และเบเกอรี่ เล็ก



พอเดินเข้าประตูร้านมา เราจะพบกับซุ้มไวน์ ตกแต่งแนว Cosmopolitan ที่มีไวน์และเบียร์ ซึ่งนำเข้ามาจากหลายประเทศ




ด้านในของร้าน ถูกจัดอย่างเรียบง่าย สไตล์ร้านอาหารในยุโรป





ซึ่งไม่ว่านั่งโซนไหนของร้าน ก็ได้ สามารถสั่งอาหารได้ทั้งอาหารคาว และหวาน

เราตัดสินใจเลือกที่จะนั่งโซนห้องแอร์ Indoor เพราะไม่อยากรับรู้อากาศร้อนเดือนเมษาด้านนอก แม้ Outdoor ทางร้านจะมีพัดลมไอน้ำเป่าให้ แต่เผอิญ แอดขี้ร้อนมากกกกก! 😰




พอนั่งปุ๊บ ไม่พูดพล่ำทำเพลง รีบขอเมนูมาสั่งอาหารทันที เพราะได้เวลาอาหารกลางวันพอดี

หิวมากกกกก!





เผอิญ ที่ร้านจะมีการแยกเมนูเป็นอาหารเช้า ถึง กลางวัน อย่าง Brunch menu และอาหารเย็น Dinner Menu

เราก็มากันช่วงกลางวัน ก็คงสั่งได้แค่ Brunch menu

(เราก็ไม่รู้ เลยเผลอโป๊ะแตกสั่งอาหารในเมนูอาหารเย็นไป 555)  






มากันแค่สองคน ก็กลัวกินไม่หมด เลยสั่ง ให้พอกรุ๊บกริบ สัก 2 เมนู ซึ่งร้านแนะนำ Signature 2 เมนู คือ

Smoked Salmon Benedict และ Espresso BBQ Pork Ribs

แต่ก็แอบถ่ายเมนู Dinner มาให้ดูกัน เผื่อเวลาเพื่อนๆตามไปทาน จะได้เตรียมว่าจะสั่งอะไร




ระหว่างนั่งรออาหาร ก็ขอออกไปเดิน อิ่มเอมกับบรรยากาศในร้านก่อนแล้วกัน




เดินออกมาบริเวณสวนหน้าร้าน ถูกตกแต่งไว้สวยงาม เป็นที่นั่งกลางสวน สำหรับผู้ที่ต้องการมานั่งชิล นั่งดริงก์ ยามค่ำคืน เราว่าบรรยากาศมันดีเอามากๆ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้อีกด้วย




มีที่นั่งสำหรับผู้ที่มากันเป็นคู่




ตอนกลางคืนคงบรรยากาศดีน่าดู





ทางร้านยังมีบริเวณ ชั้นสอง ซึ่งน่าจะเป็นห้องส่วนตัว ไว้สำหรับจัดงาน รองรับคนจำนวนเยอะๆ
รู้สึกว่าจะไม่เสียค่าห้อง ถ้ากินถึงขั้นต่ำตามที่ร้านกำหนดไว้




อันนี้เป็นที่นั่งโซน Outdoor ที่ทางร้านบอกว่า ในช่วงเย็น อาจจะต้องแย่งชิงกันหน่อย เพราะใครๆ ก็อยากมานั่งริมน้ำ ให้น้ำพุกระเซ็นใส่ให้พอสะดุ้งกันเล็กน้อย




เย้ เย้ เย้  ในที่สุดเราก็เจอหงส์ ที่เราตามหาแล้ว ลอยน้ำเล่นน้ำพุอยู่นี่เอง




ดูเหมือนนางจะร้อนนะ เพลินเชียว




ภายนอกร้าน ดูกว้างขวาง ร่มรื่น และสบายเป็นที่สุด




ชอบโคมไฟของที่นี่ มีการนำหลอดไฟ ไปใส่ไว้ในมุ้งผ้า และชะลอมตาข่ายจักสาน




ที่ร้านยังมีโซน ที่สามารถนั่งชิลๆ ให้น้ำพุกระเซ็นเบาๆ ได้อีกด้วย ตอนเย็นคงเป็น Beer Garden ดีๆได้เลย




กลับมาที่โซน Indoor ของเรา ที่มีกำแพงกระจกรายล้อม ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสบายดา และร่มรื่นขึ้น




โซน Indoor ดูโอ่โถงสบาย มาพร้อมกับงานศิลป์ที่ให้เสพไป ระหว่างลิ้มรสอาหาร




ระหว่างนั่งรออาหาร ก็เหลือบไปเห็น ลูกโป่งสีชมพู สุดสวย - งานวันเกิดของใครกันนะ




มองไปรอบๆร้าน ก็เจอเด็กน้อยน่ารัก เจ้าของวันเกิด กำลังเกาะกระจกตื่นเต้นกับบางสิ่งอยู่ 

นั่นก็คือ...




พ่อและแม่นกยูงสีขาวโพลน ของเรานี่เอง




ซึ่งนอกจากหงส์แล้วร้านยังมีกรงนก ที่มีนกยูงมาช่วยเรียกสีสัน 

เราว่ามันทำให้ร้านดูมีสีสัน และน่าดึงดูดขึ้นมา สร้างบรรยากาศ เหมือนนั่งทานอาหารไป 
ชมธรรมชาติไป




กลับมาที่โต๊ะอาหารของเรา เมนูแรกของเราก็มาเสิร์ฟ แล้ว Smoked Salmon Benedict (Full)




ดูสีสวย และน่ากินมาก เสิรฟ์ มาด้วยกัน 2 ชิ้นใหญ่ พอดีกับจำนวนคน 




ผ่าออกมา จะพบกับไข่แดงที่เยิ้มหน่อยๆ ทางร้านมีให้เลือก Poached egg แบบนุ่มหรือ แข็ง

เราเลยเลือกแบบนุ่ม ซึ่งคิดว่าน่าจะเข้ากับ แซลมอนรมควัน มากกว่า

และผลที่ได้ คือ...

มันเข้าก๊านเข้ากัน อย่างลงตัว แซลมอนสดและรมควันได้พอดี ไข่นุ่มกลืนง่าย ขนมปังอบก็หอมกรุ่น ตัวซอสก็รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี ทุกอย่างละมุนลิ้น นวลเนียนเข้ากันหมด

ส่วนเรื่องราคา 2 ชิ้น 290 บาท ซึ่งถือว่า ปกติมากสำหรับราคานี้ ไม่แพงเลย

คะแนนจานนี้ >>> 9.5/10 ไปเลย ไม่ได้อวย แต่มันดีงามสมราคาจริมๆ




ระหว่างทานอยู่ เจ้านกยูงน้อย ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ กระจกฝั่งที่เรานั่งอยู่ อยากกินบ้างใช่มั้ยล่ะะะะ 55

ไม่รู้ว่าอยากมากินบ้าง หรือมาอวดโฉมให้เราถ่ายรูปมาลง 

เลยสนองความต้องการนางหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่ยอมถ่ายรูป อุตส่าห์ มาเป็นแบบให้แล้ว




และแล้วนาง ก็จากไป 

พร้อมกับเมนูถัดไปที่มา เสิร์ฟพอดี




เมนูต่อมาของเรา คือ Espresso BBQ Pork Ribs เมนูเด็ดของร้านที่ใครๆ ก็บอกให้มาลอง เราสั่งเป็นแบบ Half เพราะกลัวว่าแบบ Full จะเยอะไป 

ราคาของจานนี้ 450 บาท เราว่าราคากำลังโอเคนะ ร้านอื่นๆ ก็ประมาณนี้ แต่เรื่องรสชาติ ล่ะ...




รสชาติดีงาม สมกับที่ทางร้านบอกไว้ เป็น Ribs ที่ Grill จนนุ่มกำลังดี 

ซี่โคร่งหลุดร่อนจากกระดูกได้อย่างง่ายดาย

เนื้อหมูก็หมักมาอย่างดี กินพร้อมกับซอสบาบีคิว มันช่างเข้ากัน อย่างเลิศล้ำ

เอาจริงๆ แอดก็เคยทาน Ribs มาหลายร้าน  แต่แอดไม่ค่อยชอบ เนื่องจากมันค่อนข้างเหนียว 
และทานยาก จึงมีไม่กี่ร้านที่ถูกใจ

และร้านนี้ก็น่าจะเป็นอีกร้านที่แอด ขอยกให้เป็น Top 3 ประจำใจเลย


คะแนนจานนี้ >>> 10/10 เพราะราคาที่สมน้ำสมเนื้อ เสิร์ฟมา 2 ชิ้นใหญ่ และรสชาติที่ดีงาม




เหลือบไปเห็นนกน้อยกำลังจะโบิน เลยรีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป

เผลอแปร๊บเดียว หันกลับมา




หมดเกลี้ยง เรียงตัวสวย เหลือแต่กระดูแล้วจ้า 555 

หมดปุ๊บ แอดก็อิ่มพอดี

เสียดายมาก พอโดนไปสองเมนู แล้วอร่อยถูกใจ 
เลยอยากจะลองของหวานซึ่งมีคนบอกว่าดีงามบ้างเหมือนกัน 
แต่ดันมีแพลน ต้องไปทานของหวาน อีกที่หนึ่ง

ครั้งนี้เลยขอติดไว้ก่อน ครั้งหน้ามา ต้องจัด และพาเพื่อนมาเยอะกว่านี้ จะได้ลองหลายๆอย่าง




ก่อนกลับ ก็ขอเดินออกไปถ่ายรูปเล่นอีกสักหน่อย






ที่ร้านยังมีลาน Outdoor ไว้จัดงานได้ เผื่อใครสนใจ ลองโทรเช็คดูอีกที

เห็นทางร้านรับเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานด้วย




ซึ่งเราว่าเป็นมุมที่ถ่ายรูปสวยงามมาก




เลยจัดให้นางแบบที่มาด้วยวันนี้ ซักหน่อย




ที่ร้านไม่ได้มีแค่สัตว์ปีกนะ น้องกระต่ายน่ารักๆ ก็มี




- ชอบมากกับบรรยากาศ และรสชาติอาหารในร้าน รู้สึกอิ่มเอม ไปกับสวนที่ร่มรื่นท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งหาได้ยากในเมืองกรุง แถมยังได้บริการดีๆ ของพนักงานในร้าน 
ดุจเราเป็นคนพิเศษ
ด้วยราคาแบบร้านในห้างทั่วไป มันช่างเป็นอะไรที่ดี๊ดี -


สุดท้ายร้านนี้ เป้นอีกร้าน ที่แอดมิน เชียร์สุดใจ ให้ได้มาลองกัน คุ้มค่าทุกบาทที่เสียไปแน่นอน ไม่รู้สึกขัดใจกับอะไรเลยในร้าน กลับมามีแต่ความรู้สึกดีๆ 

เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นร้านของครอบครัว ในวันหยุด โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก เด็กๆ น่าจะชอบกัน หรือใครจะมากับแฟน ก็ดีไม่น้อย

เพื่อนที่ไปมาบอกที่ร้านดูแลเด็กๆ ดีมาก มีภาพให้เด็กๆระบายสี เล่นกันด้วย น่ารักดี


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เปิดบริการทุกวัน



ตั้งแต่ 8.00 - 23.00 น. ถือว่าเป็นร้านที่เปิดตั้งแต่เช้ายันมืด (Dinner เริ่ม 16.00 น. เป็นต้นไป)

โทร. 02-714-2112 (ควรโทรไปจองก่อน)  เว็บไซต์  http://www.thegardenspalace.com

https://www.facebook.com/thegardenspalace


ทิ้งไว้ด้วยรูปสวยๆ ก่อนจากเช่นเดิม --- รีวิวขนาดนี้ อยากลองไปแล้วใช่ป่ะล่ะะะ!




















ความคิดเห็น