รีวิว (ไม่สปอยล์) – The 100th love with you (8.5/10 About time เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ที่คิดว่าดีกว่าโคตร)


หนังใหม่ที่อยากชวนให้ได้ดูในสัปดาห์นี้ 

หนังญี่ปุ่นที่ไม่ได้ยินกระแสอะไรมาก่อน แต่เพื่อนมาชวนให้ไปดูแบบ งงๆ

เรื่องย่อ ตัวอย่างไม่ได้ดูไปก่อน รู้ว่าแค่หนังเกี่ยวกับย้อนเวลา

ก็แอบคิดว่า ย้อนเวลากันอีกแล้วเหรอ...

แต่พอออกมาจากโรง ได้แต่บอกว่าดีโคตร ชอบอ่ะ อยากดูแล้วป่ะล่ะะะะะะ
ไปดูกันเลยดีกว่า



"ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม"


ช่วงนี้รู้สึกว่าภาพยนตร์ญี่ปุ่น จะมาแนวท่องเวลา เสียส่วนใหญ่ แต่อีกใจก็แอบรู้สึกดี ที่หนังญี่ปุ่นในบ้านเรานับวันจะยิ่งเป็นที่สนใจมากขึ้นต่อเนื่อง บริษัทหลายเจ้าเริ่มเอาหนังยุ่นเข้ามาให้เราได้ชมกันอยู่เรื่อยๆ รวมถึงเรื่องล่าสุด อย่าง "The 100th Love with You หรือ ย้อนรัก 100 ครั้งก็ยังเป็นเธอ" 

Kimi to 100 Kaime no Koi ซึ่งเป็นชื่อญี่ปุ่น เป็นผลงานการกำกับของ โช สึคิคาวะ หนังแนวรัก-ดราม่า ที่เขียนบทโดยคนเขียนซีรี่ย์ "บันทึกน้ำตา 1 ลิตร" ซีรี่ย์น้ำตาท่วมจอที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน

หนังเรื่องนี้เพิ่งลงโรงในญี่ปุ่นไปเมื่อเดือน ก.พ. ถือว่าเข้าไทยเร็วอยุ่นะ โดยหนังเป็นการแสดงครั้งแรกของนางเอก มิวะ นักร้องนักแต่งเพลงสาวมากความสามารถที่มีฐานแฟนคลับในไทยอยู่พอสมควร ด้านพระเอกก็เคยเห็นตอนเล่นบทไม่เด่นมาก ในเรื่อง Our little sister เมื่อสัก 2 ปีก่อน แต่มารับบทเด่นครั้งแรกในเรื่องนี้ นั่นคือ 

พ่อพระเอก ซาคางุจิ เคนทาโร่ (Sakaguchi Kentaro) พูดเลยปกตินี่ไม่ค่อยอินกะหน้าพระเอกญี่ปุ่น แต่สำหรับคนนี้ ขอสมัครเป็นแฟนคลับได้มั้ย หล่อน่าทะนุถนอม น่าเอ็นดู มาก




เรื่องนี้ขอไม่เล่าเรื่องย่อ ยาวเหยียดเหมือนเรื่องก่อนๆ ที่เคยรีวิว เพราะอยากให้ซึมซับไปกับบทตัวละครในเรื่อง และเรื่องนี้แนะนำว่า ไม่ควรอ่านเรื่องย่อ กับดูตัวอย่างก่อนดู เลยจริงๆ เพราะรู้สึกเรื่องย่อและตัวอย่าง มันทำให้หนังครึ่งแรกเสียอรรถรสได้

อ้าววววว! ถ้าไม่เล่าเรื่องย่อ และตูจะรู้เรื่องมั้ยล่ะ เรามีวิธี

ก็บอกไปแล้วว่าหนังเกี่ยวกับย้อนเวา คล้าย About time ตามที่ได้จั่วหัวไว้ เนื้่อเรื่องก็คงวุ่นวายเกี่ยวกับเวลานี่แหละ โดยเนื้อเรื่องก็อยุ่ภายใต้กรอบของโศกนาฏกรรม ที่จะพาเราไปเจอกับเนื้อเรื่องที่จัดจ้าน พร้อมๆ กับพัฒนาการทางความคิดและการกระทำของตัวละคร ประเภท Coming of Age

พูดแบบนี้แล้วยังง อีกใช่มั้ย งั้นไปอ่านกันต่อ



แม้ว่าหนังจะเป็นพล็อตเกี่ยวกับการย้อนเวลาแบบเดิมๆ แต่ยามที่คนเราพบว่า บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น ไม่สามารถแก้ไขได้ ยิ่งเป็นเรื่องราวความทุกข์แสนสาหัสแล้วละก็ อาจพาให้เราจมอยู่กับมัน จนไม่อาจก้าวผ่านได้ เมื่อใดที่สลัดมันหลุด และเปิดรับสิ่งใหม่เข้ามา คุณจะรู้เองว่าเวลาที่มีนั้นมันคุ้มค่าแค่ไหน

แม้ตัวเรื่องจะดูเป็นดราม่าหนักๆ แต่หนังกลับชะโลมไปด้วยความหวาน และช่วงเวลาอันอบอุ่นมากๆ เลย ตรงนี้ทำให้อมยิ้มหน้าแดงกันได้เลยกับแต่ละอย่างที่พระเอก ทำให้กับนางเอก น่าจะถูกใจสาวๆ เอามากๆ โดยเฉพาะบุคลิกพระเอกที่ เข้มขรึม เพอร์เฟค ที่เผยมุมอ่อนหวานกับคนรักเท่านั้น ขอบอกเลยว่านี่เรียกว่า ท่าไม้ตาย ที่ดูยังไงก็เขิลลลล รายละเอียดอื่นๆ ของเรื่องก็เสริมพล็อตหลักให้แข็งแรงขึ้น 

ที่เห็นเขียนเน้นเรื่องเวลา เยอะ ก็เพราะมันเป็นหัวใจของหนังเรื่องนี้ ซึ่งส่วนเด่นที่สำคัญ ที่ต่างไปจากหนังย้อนเวลาเรื่องอื่นๆ คือมันเล่า ได้เข้าไปถึงหัวใจของเรามากกว่า หลายๆเรื่อง หนังเน้น การได้อยู่กับคนที่รักในเวลานี้ มีค่าน่าหวงแหน และน่าทำดีต่อกันมากแค่ไหน


ข้อดี

- หนังถ่ายในโลเคชั่น ที่สวยโคตร มีหลายๆที่ ไม่เคยเห็น และไม่เคยรู้มาก่อน โดยเฉพาะ ฉาก แสนอบอุ่นในเทศกาลฤดูร้อนที่ศาลเจ้าอุชิโมโดะ รวมถึงยอร์ชฮาเบอร์ในเมืองอุชิโมโดะ ด้วย ถือว่าเป็นฉากที่แปลกตาไปจากหนังเรื่องอื่นๆ

-หนังอาจดูโดยรวมจะเป็นเรื่องความรักวัยรุ่น และมีความเป็นแฟนตาซี แต่จริงๆแล้ว ให้แง่คิดเกี่ยวกับความรัก และการใช้ชีวิต ไม่น้อยเลย มากกว่าเรื่องอื่นๆด้วยซ้ำ

-มีซีนขำๆ หลายซีน ซึ่งไม่ได้เกิดจากพล็อตที่วางไว้ แต่เกิดจากการแสดงผ่านการกระทำของตัวละคร ที่ชวนอมยิ้ม

-นักแสดงเล่นได้ดีมาก ถ่ายทอดอารมณ์และเรื่องราวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะความดราม่าช่วงท้ายที่พีคๆ นี่ ถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะพระเอก และนางเอก ที่ทำให้น้ำตาแตกถึง 2 รอบ ใครกลั้นน้ำตาได้ พูดเลยว่าไม่ได้เอาหัวใจมาดูด้วยแน่ๆ

-และข้อเด่น โคตรๆ ของหนังเรื่องนี้คือ เพลง เพราะบทเพลงแสนหวานในเรื่องถูกร้อยเรียงมาให้เข้ากับตัวหนัง อย่างที่สุด แทบจะทุกท่อนของเพลง กระแทกใจคนดูแน่นอน โดยเฉพาะเพลง Aiokuri ที่ร้องโดยนางเอก และเพลงจบของหนัง ที่ใช้ชื่อเดียวกับหนัง อย่าง Kimi to Hyakkaime no Koi นั่งฟังเพลงไป อ่านเนื้อเพลงไป น้ำตาแตกจร้าาาาา

ข้อเสีย

- หนังเล่าเรื่องนานไปหน่อยในช่วงแรก 

- ฉากที่พระเอก ร้องเพลงคู่ นางเอก ดูเสียงไม่ค่อยเข้ากัน  


"เพราะเวลาคือชีวิต และชีวิตสถิตอยู่ในหัวใจ อย่ามัวเผลอไผลในการใช้ชีวิต จงระวังโจรขโมยเวลามาเอามันไป"

สรุปแล้วแม้เป็นหนังที่พล็อตไม่แปลกใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่น คือ ตัวเอกที่มีเสน่ห์ทั้งคู่ โดยเฉพาะพระเอกนี่เท่สุด และดีงาม งานล้อมเพชร / การแสดงที่ดีงามของนักแสดงในเรื่อง / เพลงเพราะๆตลอดเรื่อง / เหตุการณ์ในเรื่องที่ทั้งลุ้น ขำ สุข น้ำตาคลอ ซาบซึ้ง อิน

หนังเนื้อหาดี อบอุ่นหัวใจ แบบ About time ละมุนมากจริงๆ แม้แก่นเรื่องอาจเดาง่าย แต่ไปดูความน่ารักของพระเอกก็คุ้ม หนังดีงามตามสไตล์ญี่ปุ่น ภาพสวย ตอนรักโคตรน่ารัก ตอนเศร้าเล่นเอาเหนื่อย เชื่อว่าโมเม้นในหนัง จะถูกจริต สาวๆหลายคน 

ขอบอกเลยว่า แอดหวั่นไหวให้กับหนังเรื่องนี้ โรแมนติคสุดๆ ตอนท้ายจบดี เวลาเป็นของมีค่าที่สุด



คะแนน >>>>> 8.5/10


สำหรับบางคน ช่วงเวลาบางช่วงที่มีความสุข นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตนี้

เชื่อว่าคนที่ไปดูต้องประทับใจ การย้อนเวลาครั้งนี้ผลจะเป็นเช่นไร 

ขอไม่สปอยล์ แต่ควรค่าแก่การไปดูเอง วันนี้ในโรงภาพยนตร์

*คำเตือน ไม่ควรอ่านเรื่องย่อ และดูตัวอย่างก่อนชม

เรื่องนี้จึงขอไม่แปะตัวอย่าง แต่แปะเพลงในเรื่องแทน




ความคิดเห็น