รีวิว (ไม่สปอยล์) – King Arthur: Legend of the Sword (7/10 นี่ถ้าพระเอกไม่จับดาบ จะคิดว่าดูเชอร์ล็อคโฮม อยู่นะเนี่ย)



หนังใหม่อีกเรื่องสัปดาห์นี้ หลังจากผ่านเอเลี่ยนสุดสยองไป ก็ลองมาดูหนังแอคชั่น

Period แฟนตาซี อย่าง King Arthur กันดูบ้าง หลายคนคงเคยได้ยินตำนานมาบ้าง

หนังก็เอากลับมาทำแล้วทำอีก ไม่รู้กี่เวอร์ชั่น แต่ภาคนี้ได้ผู้กำกับคนเดียวกับ 
Sherlock Holmes กำกับ


ก็คงแปลกใหม่ไม่น้อย คงไม่ต้องถามว่าอยากดูป่ะล่ะะะะะะ? ไปดูกันเลยดีกว่า



“When People fear you, It is the most intoxicating sensation

 a man can possess.”


เรื่องนี้ก่อนรีวิว แบบเดิมๆ ขอเอาสรุปขึ้นก่อน และกัน จะได้ฉับไว ตามสไตล์หนังเรื่องนี้ เผื่อใครจะใจร้อนขี้เกียจอ่านยาว


หนังเท่ดี ตัวละครมีเสน่ห์มาก พระเอกก็เซ็กซี่ ขนาดตัวละครเยอะยังจำได้แทบทุกตัว แอบมีคนเซ็กซี่กว่าพระเอกมาเป็นเกสด้วย ภาพก็วางเฟรมได้ประณีตมาก ชุดฉาก การแสดง ซีจี ก็เท่ไปหมด เหมือนผู้กำกับเอาความเท่ให้ทีมงานนักแสดงกินแทนข้าว จากที่ไม่คิดจะสนใจพระเอกหนังฟอร์มยักษ์คนใหม่อย่าง ชาร์ลี ฮันนัม (Charlie Hunnam) กลายเป็นชอบไปเลย


การตัดต่อกับการเล่าเรื่องยังว่องไว พริ้วจัด แถมมีความกวนระดับไม่ธรรมดาพ่วงไปอีก ตามสไตล์ของผู้กำกับ กาย ริชชี่ (Guy Ritchie) ผู้เคยกำกับหนัง Sherlock Holmes ของพี่โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ ของเราทั้งสองภาค คือคนดูหนังยุคใหม่นี้น่าจะปลื้มเลยล่ะ แต่คนที่ดูอะไรไวๆ ไม่ค่อยทันคงเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ


เพราะแค่เปิดเรื่อง ห้านาทีแรก ก็เล่าเรื่องความเดิมสรุปไปเยอะมากจน ถ้าคนไม่รู้จักคิง อาร์เธอร์มาก่อน งงแน่นอน แต่พอเข้าโหมดเล่าเรื่องปกติก็ไหลลื่นดี ชอบการกลับไปทวนฉากเปิดบ่อยๆ ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น แถมมีอะไรให้ตะลึงอยู่เป็นระยะๆ


ขณะเดียวกันความไม่ชอบคือ หลายเหตุการณ์สำคัญ ก็ดูไร้ที่มาที่ไปสุดๆ สุดท้ายที่คือดนตรีประกอบ นี่คือสิ่งที่สมควรต้องเข้าไปฟังในโรงหนังที่มีระบบเสียงดี ๆ เพราะ เพลงมันเร้ามาก




มาต่อที่รีวิว ตัวเต็มกันบ้าง

เรื่องของกษัตริย์อาร์เธอร์แห่งบริเทนนั้น เป็นตำนานเล่าต่อกันมา ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น หลายตำนาน ทั้งแบบเรียล มาก จะมีตัวตนจริงหรือไม่ ก็ไม่รู้แน่ชัด  ที่ต้องเกริ่น เพราะต้องบอกว่าส่วนใหญ่หนังและสื่อต่างๆ มักจะเน้นไปที่เรื่องราวการได้ดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ของคิง อาเธอร์, การผจญภัยของอัศวินโต๊ะกลมต่าง ๆ, พลังมหัศจรรย์ของมหาจอมเวทย์แห่งยุคอย่างเมอร์ลิน อะไรเทือกนี้ครับ


แต่มาคราวนี้เราจะได้อิ่มหนำกับการเปิดตำนานบทใหม่ที่ว่ากันตั้งแต่ชาติกำเนิดของอาร์เธอร์เลยทีเดียวและนี่คือ “อีกหนึ่งเวอร์ชั่น” ของตำนานกษัตริย์อาเธอร์ในรูปแบบแฟนตาซี สุดเก๋ไก๋ตามสไตล์ ผู้กำกับ กาย ริชชี่ (ผัวเก่ามาดอนน่า) กับหนังที่มีชื่อว่า “King Arthur: Legend of the Sword” หรือ “คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์”




เรื่องย่อแบบไม่สปอยล์ มากสุดก็ตาม Trailer

เรื่องราวจะเล่าถึง “อาเธอร์” (แสดงโดย ชาร์ลี ฮันนัม) ชายหนุ่มผู้ที่เติบโตมาอย่างยากลำบากในตรอกเล็กๆในเมืองอันแสนห่างไกล จนกระทั่งวันที่เขาสามารถดึง “เอ็กซ์คาลิเบอร์” ดาบแห่งราชันย์ที่แท้จริงขึ้นจากก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ ก็ทำให้เขาได้รับรู้ว่าตนเองมีเชื้อสายกษัตริย์


และถูก “วอร์ทิเกิร์น“ (แสดงโดย จู๊ด ลอว์) ลุงแท้ๆของตนชิงบัลลังก์ และเกมการชิงบัลลังก์ของอาร์เธอร์ การต่อสู้ครั้งใหญ่ของเขากำลังจะเริ่มต้น และกลายเป็นตำนานสุดแหวก แปลก และแฟนตาซีกว่าตำนานกษัตริย์อาเธอร์บทไหนๆ


หนังได้ดาราดัง และเกือบดังมากหน้าหลายตา ทั้ง “ชาร์ลี ฮันแนม” (Pacific Rim) และ “จู๊ด ลอว์” (Cold Mountain, Sherlock Holmes ) รับบท วอร์ทิเกิร์น, “แอสทริด เบอร์เจส-ฟริสบี”(Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides) รับบท เมจ, “ไจมอน ฮอนซู” (Blood Diamond, In America) รับบท บีไดเวียร์ม, ไอดัน กิลเลน (Game of Thrones) รับบท กูสแฟท บิล วิลสัน และ เอริค บานา (Star Trek) รับบทกษัตริย์อูเธอร์ เพนดรากอน พ่อของอาร์เธอร์




คิงอาเธอร์ เวอร์ชั่นนี้ ถูกตีความใหม่  ซึ่งถ้าใครชอบแบบคลาสสิคเดิมๆ อาจจะต้องเพลียจิต  แต่สำหรับวัยโจ๋ ที่ชอบความกวน ดิบๆ เถื่อนหน่อยๆ  น่าจะดูสนุกอย่างไม่ยากเย็นนัก


ด้านเนื้อเรื่องนั้น ค่อนข้างห้วนไปหน่อย  ทุกอย่างมาไวไปไว เล่าเรื่องค่อนข้างเร็วมาก  บวกกับการตัดต่อแบบฉับๆ ของริชชี่   ใครเหม่อๆนี้ มีงงได้เลย  ซึ่งตัวเนื้อเรื่องนั้นหลายคนน่าจะพอเดาทางได้อยู่ ไม่ค่อยมีไรใหม่เท่าไร แต่ชดเชยด้วยการแสดงของตัวละครในเรื่องที่บุคลิกบางตัวก็กวนดี  โดยเฉพาะอาเธอร์ ที่พอจะเท่ก็เท่บาดใจ พอจะน่าเกรงขามก็ดูให้เชื่อได้ พอจะกวนฮาก็ยังได้อีก  ฉีกภาพอาเธอร์ที่เคยมีมาไปจนหมด


บอกตามตรงเลยนะ ไม่คิดว่าหนังจะออกมาแนวนี้ อารมณ์หลังดูจบ ... แบบนี้ก็ได้หรอคะซิสสสสสสส แต่ก็ประทับใจนะ ก็ แฟนตาซีตามสไตล์ WB





มาพูดถึงข้อดี

สิ่งที่ชอบแบบคือดียยยยยย์ ก็คงเป็นการตัดต่อกับดนตรีประกอบ  ซึ่งใครเป็นแฟนผลงานกาย ริชชี่ น่าจะนึกออกว่า การตัดต่อพี่แกเป็นยังไง  เล่าเรื่องสลับกับที่มาของเหตุการณ์นั้นๆ บวกกับดนตรีประกอบที่ฮึกเฮิมโคตรๆ  ทุกครั้งที่ดนตรีประกอบขึ้นมาผมรู้สึกหนังสนุกขึ้นไปอีก สามสี่เท่าเลยทีเดียว ทำให้บางซีนที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ก้มีอะไรขึ้นมาเยอะเลย    2 อย่างนี้ช่วยให้หนังบันเทิงตลอดจนจบเรื่องได้สบายๆ


อีกอย่างที่ดีคือ ฉากแอ๊คชั่นที่ใส่ CG เข้ามาช่วยเยอะมากๆ  ดูแล้วก็นึกว่ากำลังเล่นเกมส์อยู่ เหล่าเกมเมอร์น่าจะอินไปกับฉากต่อสู้พวกนี้ได้ไม่ยากเลย  ซึ่งทำได้ดีมากเสียด้วยสิ


อีกข้อที่ปลื้มมาก ๆ และคิดว่าสมควรแก่การไปดูในโรง คือภาพซีจีที่เนียนกริ๊บ การดีไซน์ของงานภาพที่งดงาม เหมาะกับการดูจอใหญ่ ๆ และอีกอย่างคือคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก 




มาว่ากันที่ข้อเสีย


สิ่งที่ไม่ค่อยชอบคือ  การตัดต่อ บางครั้งมันมองไม่ทัน อย่างฉากต่อสู้ ตัดไป ตัดมา เดี๋ยวมุมภาพแคบบ้างกว้างบ้าง ตัดไปทางนู้นทีทางนี้ที  เผลอนิดเดียว งงละ ใครโดนไร ตัวไหนโดนแทง พอๆกับช่วงแรกที่มีการพูดถึงชื่อตัวละครเยอะมาก  ตัดไปตัดมา  มีงง  มีมึนเหมือนกัน    และรูโบ๋ใหญ่ คือความไม่เมคเซ็นส์ในที่มาของเนื้อเรื่อง บางช่วงบางตอน


ข้อเสียของหนังที่นึกออกอีกอย่างคือ เล่าเรื่องได้วัยรุ่นมากไปหน่อย ใครรับอะไรเชื่องช้า ก็เตรียมพ่ายแพ้ไปได้เลย ถึงขั้นอาจดูไม่ทัน ไม่เข้าใจกันเลยทีเดียว อย่างบางฉากนี่คงมาก ว่าเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องสมมติ ตัดไวมากแต่บทพูดโคตรเยอะเลย คนไม่ชินกับหนังตัดว่องๆ แบบนี้มีโวยแน่ เอาจริงๆ นี่ไปหนังดูยังเก็บที่มันคุยกันไม่หมดเลยด้วยซ้ำ มั้งนะ 555


รวมถึงคิวบู๊ที่น่าจะทำให้มันส์มากกว่านี้ 




“As Your Power increases so do the forces that will oppose 

you, The born king will come. It is inevitable.”


สรุปเป็นหนังที่แฟนของ กาย ริชชี่ ดูได้เลย เสน่ห์พี่แกอยู่เต็มเรื่อง  ส่วนคนที่ไปดูแบบไม่คิดไรมาก กะดูเอามัน ผมว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์อยู่นะ    ใครเกลียดหนังเอเลี่ยน ก็จัดเรื่องนี้แทนได้  บันเทิงอยู่


โดยรวมสัปดาห์นี้ คิดว่าน่าโดนครับเรื่องนี้จะดูก่อนหรือหลังเอเลี่ยน ก็ได้ ไม่แน่อาจได้ดูภาคต่อๆ ไปของหนังเรื่องนี้แบบยาวๆ เลยก็ได้ เพราะตอนจบเรื่องนี่เหมือนแค่จุดเริ่มต้นของ คิงอาร์เธอร์ เอง แถมตัวละครสำคัญอีกเยอะเลยที่ยังไม่ปรากฏตัว อยากให้มีภาคต่อนะ


คะแนน >>>>> 7/10


คะแนนให้เท่าเอเลี่ยนละกัน กินกันไม่ลง

ซึ่งถ้าถามว่าคุ้มป่ะล่ะ ที่จะไปดูเรื่องนี้

เราว่าคุ้มนะ แอคชั่นมันส์ หนังเท่ ควรไปดูที่สุด

ลองไปพิสูจน์ได้แล้ว วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์


ก่อนจากไปก็ขอฝาก Trailer  

ของหนังเรื่องนี้ไว้ เพื่อทำการบ้านก่อนไปดู

ความคิดเห็น